สภากาชาด

สภากาชาดมีหนังสือด่วนแจ้ง 38 จังหวัดที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นา ห้ามนำไปฉีดเข็ม 3 เด็ดขาด

วันนี้ (20 ส.ค.64) นาย กฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการฯ ปฎิบัติการแทนเลขาธิการสภากาชาดไทย ได้ทำหนังสือด่วนถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. 38 จังหวัด เกี่ยวกับแนวทางการบริหารวัคซีนโมเดอร์นา สภากาชาดไทย โดยสภากาชาดไทยได้จัดสรรวัคซีนโมเดอร์นา ไปให้เพื่อนำไปฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์
  2. ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป
  3. บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล
  4. ผู้ที่ทำงานประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูสอนหนังสือ
  5. บุคคลที่ออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชนตามโครงการฉีดวัคซีน และบุคคลที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ห้ามนำไปฉีดเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster) โดยเด็ดขาดเนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากยังไมได้รับวัคนเข็มที่ 1 แต่อย่างใด

ทั้งนี้ เนื่องจากมีบางจังหวัดจะขอเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคชีน โดยอ้างว่าประชาชนตามกลุ่มเป้าหมายทั้ง 5 กลุ่ม ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วนั้น จังหวัดจะต้องมีการแสดงข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐานที่ชัดเจนว่าประชาชนทั้ง 5 กลุ่มเป้าหมาย ได้รับการฉีดครบแล้ว จึงจะขอขยายหรือเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้โดยจะต้องให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีมติรับรองการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวด้วย แล้วส่งไปยังสภากาชาดไทยพิจารณาก่อน

ดังนั้น เพื่อให้การจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นา เป็นไปตามเป้าหมาย จึงขอให้ อบจ. สำนักงานสาธารณสุข สำรวจข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมรายชื่อสำรอง โดยให้จัดส่งบัญชีรายซื่อผู้เข้าเกณฑ์ได้รับวัคซีนมาที่สภากาชาดไทย ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ ส่วนจะจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน ขอให้คำนึงถึงความเสี่ยงของประชาชนทั้ง 5 กลุ่ม โดยให้ความสำคัญตามความเสี่ยง และในกลุ่มที่ 5 ต้องให้ความสำคัญกับผู้ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เป็นอันดับแรกและห้ามนำวัคซีนของสภากาชาดไทยไปฉีดเข็ม 3 เพราะยังมีประชาชนอีกมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

ทั้งนี้ สภากาชาดไทยขอเรียนว่า โครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด อบจ. ซึ่งเป็นที่จับตามองของสังคมมาก จึงขอความร่วมมือทุกจังหวัดกำกับดูแลการจัดสรรวัคซีนให้เป็นไปตาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทย และ อบจ.อย่างโปร่งใสและเคร่งครัด